แนะนำ Variable / Data Type
รู้จักกับ Variable และ Data Type
Variable (ตัวแปร) และ Data Type (ประเภทข้อมูล) เป็นพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนต้องเข้าใจเมื่อเ ริ่มต้นเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python หรือภาษาการเขียนโปรแกรมใด ๆ โดยตัวแปรและประเภทข้อมูลจะเป็นสิ่งที่ใช้ในการจัดเก็บและจัดการข้อมูลในโปรแกรมของเรา
Variable (ตัวแปร) คืออะไร
ตัวแปรใน Python คือชื่อที่ใช้เก็บค่าหรือข้อมูลต่าง ๆ เราสามารถตั้งชื่อตัวแปรใด ๆ ก็ได้ตามต้องการ (ตามกฎของการตั้งชื่อ) และค่าที่เก็บในตัวแปรสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ตัวอย่างของการประกาศตัวแปร:
x = 10
name = "Bas"
is_active = True
ในตัวอย่างข้างต้น:
x
คือ ตัวแปรที่เก็บค่าจำนวนเต็ม10
name
คือ ตัวแปรที่เก็บค่าข้อความ (string)"Bas"
is_active
คือ ตัวแปรที่เก็บค่าบูลีน (boolean)True
ok เรารู้จักตัวแปรและ เรามารู้จักกับ Data Type (ชนิดของข้อมูล) กันต่อ
Data Type (ชนิดของข้อมูล)
ชนิดของข้อมูล หมายถึงประเภทของข้อมูลที่ตัวแปรสามารถเก็บได้ ใน Python มีชนิดของข้อมูลที่หลากหลาย และสามารถแบ่งได้เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้:
- Numbers (ตัวเลข)
- Integer (int): ตัวเลขจำนวนเต็ม เช่น
10
,-3
- Float: ตัวเลขทศนิยม เช่น
3.14
,-0.5
- Complex: ตัวเลขเชิงซ้อน เช่น
1 + 2j
ตัวอย่าง
age = 25 # Integer
pi = 3.14159 # Float
complex_num = 1 + 2j # Complex
- String (ข้อความ)
- ข้อมูลที่เป็นข้อความหรืออักขระ เช่น
"Hello, World!"
,"Python"
ตัวอย่าง
message = "Hello, Python!"
- Boolean (ค่าตรรกะ)
- มีค่าได้สองค่าเท่านั้น คือ
True
หรือFalse
ตัวอย่าง
is_open = True
is_closed = False
- List (รายกา ร)
- เก็บข้อมูลหลายตัวในตัวแปรเดียว ข้อมูลใน List สามารถเป็นชนิดใดก็ได้และสามารถซ้ำกันได้
ตัวอย่าง
fruits = ["apple", "banana", "cherry"]
numbers = [1, 2, 3, 4, 5]
- Tuple
- คล้ายกับ List แต่ข้อมูลที่เก็บใน Tuple จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หลังจากที่สร้างแล้ว
ตัวอย่าง
coordinates = (10.0, 20.0)
- Dictionary
- เก็บข้อมูลในรูปแบบของคู่ key และ value (
key: value
)
person = {"name": "Bas", "age": 25, "city": "Bangkok"}
- Set
- เก็บข้อมูลที่ไม่ซ้ำกัน และไม่มีลำดับ
ตัวอย่าง
unique_numbers = {1, 2, 3, 4, 5}
** สำหรับ List, Tuple, Dictionary, Set เราจะมาขยี้เพิ่มกันในภายหลังในหัวข้อ Data Structure กัน
ต่อมา เราจะเริ่มรู้จัก Operation (การจัดการตัวแปรกัน)
Operation
ใน Python การดำเนินการ (operation) มีหลายประเภท ซึ่งรวมถึง Arithmetic (เลขคณิต), Logical (ตรรกะ), และ Comparison (การเปรียบเทียบ) การดำเนินการเหล่านี้ใช้เพื่อคำนวณหรือประมวลผลข้อมูลในโ ปรแกรม มาดูกันทีละประเภทกัน
1. Arithmetic Operations (การดำเนินการทางเลขคณิต)
การดำเนินการทางเลขคณิตใช้ในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ เช่น การบวก ลบ คูณ หาร การหาค่าที่เหลือ หรือการยกกำลัง
Operator | Description | Example | Result |
---|---|---|---|
+ | Addition (บวก) | x + y | ผลรวมของ x และ y |
- | Subtraction (ลบ) | x - y | ผลต่างของ x และ y |
* | Multiplication (คูณ) | x * y | ผลคูณของ x และ y |
/ | Division (หาร) | x / y | ผลหารของ x และ y |
% | Modulus (หารเอาเศษ) | x % y | เศษของ x หาร y |
** | Exponentiation (ยกกำลัง) | x ** y | x ยกกำลัง y |
// | Floor Division (หารเอาส่วนปัดเศษทิ้ง) | x // y | ผลหารของ x หาร y โดยปัดเศษทิ้ง |
ตัวอย่าง code
x = 10
y = 3
print(x + y) # ผลลัพธ์คือ 13
print(x - y) # ผลลัพธ์คือ 7
print(x * y) # ผลลัพธ์คือ 30
print(x / y) # ผลลัพธ์คือ 3.3333...
print(x % y) # ผลลัพธ์คือ 1
print(x ** y) # ผลลัพธ์คือ 1000
print(x // y) # ผลลัพธ์คือ 3
รวมถึง Operator สามารถใช้งานกับตัวแปรประเภท String ได้ (String Operator) โดยสามารถใช้กับการบวก (+) และการคูณ (*) ได้
# การบวก string
str1 = "Hello"
str2 = "World"
result_str_add = str1 + " " + str2 # ผลลัพธ์คือ "Hello World"
# การคูณ string (การทำซ้ำ)
result_str_mul = str1 * 3 # ผลลัพธ์คือ "HelloHelloHello"
รวมถึง ใน Python เราสามารถใช้ Arithmetic Operators กับ List ได้ แต่จะมีข้อจำกัดบางประการ เนื่องจาก List ไม่ได้รองรับการใช้ Arithmetic Operators ทุกตัว เช่น การบวก และการคูณ แต่ไม่สามารถใช้การลบ หรือการหารกับ List ได้โดยตรง
ตัวอย่างเช่น code นี้
# ตัวอย่างการบวก List
list1 = [1, 2, 3]
list2 = [4, 5, 6]
result_add = list1 + list2 # ผลลัพธ์คือ [1, 2, 3, 4, 5, 6]
# ตัวอย่างการคูณ List
list1 = [1, 2, 3]
result_mul = list1 * 3 # ผลลัพธ์คือ [1, 2, 3, 1, 2, 3, 1, 2, 3]
2. Logical Operations (การดำเนินการทางตรรกะ)
การดำเนินการทางตรรกะใช้ในการเปรียบเทียบค่าหรือเงื่อนไข และคืนค่าผลลัพธ์เป็น True
หรือ False
Operator | Description | Example | Result |
---|---|---|---|
and | Logical AND | x and y | True ถ้า x และ y เป็นจริงทั้งคู่ |
or | Logical OR | x or y | True ถ้าอย่างน้อยหนึ่งใน x หรือ y เป็นจริง |
not | Logical NOT | not x | True ถ้า x เป็นเท็จ |
ตัวอย่าง code
a = True
b = False
print(a and b) # ผลลัพธ์คือ False
print(a or b) # ผลลัพธ์คือ True
print(not a) # ผลลัพธ์คือ False
3. Comparison Operations (การดำเนินการเปรียบเทียบ)
การดำเนินการเปรียบเทียบใช้ในการเปรียบเทียบค่าระหว่างตัวแปรสองตัว และคืนค่าผลลัพธ์เป็น True
หรือ False
Operator | Description | Example | Result |
---|---|---|---|
== | Equal (เท่ากัน) | x == y | True ถ้า x เท่ากับ y |
!= | Not Equal (ไม่เท่ากัน) | x != y | True ถ้า x ไม่เท่ากับ y |
> | Greater Than (มากกว่า) | x > y | True ถ้า x มากกว่า y |
< | Less Than (น้อยกว่า) | x < y | True ถ้า x น้อยกว่า y |
>= | Greater Than or Equal To (มากกว่าหรือเท่ากับ) | x >= y | True ถ้า x มากกว่าหรือเท่ากับ y |
<= | Less Than or Equal To (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) | x <= y | True ถ้า x น้อยกว่าหรือเท่ากับ y |
ตัวอย่าง code
x = 10
y = 5
print(x == y) # ผลลัพธ์คือ False
print(x != y) # ผลลัพธ์คือ True
print(x > y) # ผลลัพธ์คือ True
print(x < y) # ผลลัพธ์คือ False
print(x >= y) # ผลลัพธ์คือ True
print(x <= y) # ผลลัพธ์คือ False
เพื่อเพิ่มเติมความเข้าใจการใช้งานสิ่งเหล่านี้มากขึ้น เราจะมาแนะนำเพิ่มเติมในเรื่องของ Control Structure กันต่อ